ฝ่าย Media ของสโมสร Bangkok FC ได้ติดต่อ เช่าชุดไฟ เพื่อ ถ่ายรูปนักฟุตบอล ของทีม ในชุดแข่งใหม่ และถ่ายภาพชุดแข่ง ประจำฤดูกาล 2020 (2563) เพื่อใช้ในการโปรโมต ในสื่อออนไลน์ของสโมสร โดยเช่า ไฟสตูดิโอ แฟลช 2ดวง และ ฉากขาว แบบไวนิล ให้ทางเรา ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อใช้ถ่ายภาพ ที่อาคารในสนามซ้อมของทีม ที่ย่านสายไหม ทำไมถึง เช่าชุดไฟ ไฟสตูดิโอ แฟลช เพียง 2ดวง และฉากขาว ไวนิล ? งานถ่ายภาพ ประจำปีของ สโมสรแบงค็อกเอฟซี ในครั้งนี้ จะเป็นการถ่ายรูป นักกีฬาฟุตบอล และเจ้าหน้าที่ ประจำทีม ประมาณ 30 คน เน้นหนักที่นักฟุตบอลเป็นหลัก โดยแต่ละคน จะต้องสวมชุดแข่งขัน เสมือนจริง ทั้งชุดทีมเหย้า และชุดทีมเยือน ของสโมสร โดยภาพที่ได้ จะนำไปไดคัท เพื่อตัดฉากหลังออกให้เหลือเพียงแค่ รูปตัวของนักฟุตบอล แล้วก็จะสามารถเอารูปนั้นไปวางอยู่ในกราฟิกอื่นๆ เพื่อใช้ในการโปรโมทการแข่งขัน หรือทำสื่อโฆษณาอื่นๆของสโมสร รวมทั้ง มีการถ่ายรูปชุดแข่งขัน ที่อยู่บนหุ่นลองชุด และถ่ายรูปของที่ระลึก ของสโมสรทั้งหมด เพื่อใช้ในการโปรโมทขายสินค้า และของที่ระลึกในเว็บไซต์ หรือร้านค้าออนไลน์ของสโมสร ในคราวเดียวกัน โดยทางทีมมีเดีย เลือกที่จะ ใช้สถานที่ที่เป็นห้องพักนักกีฬา ที่อยู่ในสนามซ้อม ของทีม ใช้เป็นห้องในการถ่ายภาพ เพราะสะดวกในการที่นักกีฬาแต่ละคน ที่จะเข้ามาถ่ายภาพเสร็จแล้วก็จะได้กลับไป ลงซ้อมในสนามได้เลย แต่ด้วยลักษณะของห้องพักนักกีฬา ที่จะใช้นี้ เป็นห้องที่มีหน้าต่างกระจก รอบด้าน ทำให้มีแสงธรรมชาติรบกวน มากเกินไป ทางทีมถ่ายภาพ จึงต้องมีการ ใช้วัสดุ ปิดกระจก หน้าต่าง รอบห้องชั่วคราว เพื่อให้ห้อง มีแสงธรรมชาติ เข้ามาน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวน แสงไฟแฟลช ที่ใช้ในการถ่ายรูป โดยฉากหลังที่ทาง ทีมถ่ายภาพ จะใช้ ก็จะเป็น ฉากขาว ไวนิล ก็เพราะว่าชุดที่นักกีฬาใส่ จะใส่เป็นชุดเสมือนการแข่งขันจริง ซึ่งจะเป็น การใส่รองเท้าสตั๊ด ที่มีปุ่มแข็ง หากใช้เป็นฉากกระดาษ ฉากก็จะขาดง่าย แต่ถ้าใช้ฉากขาว ไวนิล ที่มีความคงทนต่อการฉีกขาด ก็จะเหมาะสมมากกว่า รวมทั้ง ฉากไวนิลเอง มีราคาค่าเช่าที่ไม่แพง และไม่จำเป็น ที่จะต้องมีความเรียบเนียนสวย เหมือนกระดาษ เพราะ ภาพที่ถ่ายได้ สุดท้ายก็ต้องถูกไดคัทออกไปอยู่ดี ทีมถ่ายภาพจะ เช่าชุดไฟ ไฟสตูดิโอ แฟลช เพียงแค่ 2 ดวง ถ่ายรูปนักฟุตบอล โดยจะสวม Softbox ก็เพียงพอ เพราะต้องการส่องสว่างไปยังที่ตัวคน ให้สว่างชัดเจน ไม่เน้นในการที่จะต้อง มีไฟดวงที่ 3 หรือที่ 4 ในการยิงไปที่ฉากหลัง หรือจะมีแสงพิเศษอื่นๆ ภาพที่ต้องการ ขอให้เป็นภาพที่มีความคมชัด ชัดเจน ก็เพียงพอแล้ว ในการถ่ายภาพตัวชุดแข่ง และสินค้าของที่ระลึก ก็จะใช้ไฟชุดเดียวกันนี้เหมือนกัน ทีมถ่ายภาพ จะต่อสายเคเบิลกับกล้องไปยัง Notebook ใช้โปรแกรม Lightroom ในการดึงภาพที่ถ่ายได้เข้าไปในโปรแกรมในทันที จากนั้น Notebook ก็จะต่อเข้าไปยัง ทีวีเพื่อใช้ภาพที่ถ่ายได้ ออกจอใหญ่ ทำให้ นักฟุตบอลที่กำลังถ่ายภาพอยู่หรือ ทีมงานในห้อง มองเห็นภาพที่ถ่ายได้อย่างชัดเจน มองเห็นจุดบกพร่อง และแก้ไข เปลี่ยนแปลงได้ในทันที อุปกรณ์ที่เช่า : ไฟสตูดิโอ แฟลช (A1), ฉากขาว ไวนิล อุปกรณ์อยู่ในหมวด : ไฟสตูดิโอ แฟลช, ฉากถ่ายรูป ลักษณะงาน : ถ่ายรูปนักฟุตบอล, ถ่ายรูปชุดแข่งขัน สถานที่ : Bangkok FC Development Center สนใจเช่าไฟแฟลช เช่าไฟถ่ายวีดีโอ เช่าฉากถ่ายรูปTel: 08-1924-5600Line ID: mawwmeoAdd Line : https://line.me/ti/p/lTntEqWIC4Web: http://www.sonlightstudio.comFanpage : https://www.facebook.com/sonlightth
ไฟสตูดิโอ แฟลช
การที่จะเลือกใช้ ไฟสตูดิโอ แฟลช แบบไปใช้งาน ต้องทำความเข้าใจถึงความหมาย ของอุปกรณ์ตัวไฟสตูดิโอเสียก่อน ไฟสตูดิโอ หลักๆ หมายถึง อุปกรณ์ที่กำเนิดแสงสว่าง “ทุกแบบ” ที่ใช้เป็นไฟหลัก เพื่อส่องสว่าง ในการถ่ายภาพนิ่ง หรือถ่ายภาพวีดีโอ ในสถานที่ที่เป็น “สตูดิโอถ่ายภาพ” ได้ ก็นับเป็น “ไฟสตูดิโอ” ได้ทั้งหมด แต่ในความหมายของที่ คนไทย เรียกใช้กัน ซึ่งเป็นความหมายที่ อาจจะไม่ครบถ้วน คนไทยจะเข้าใจว่า ไฟสตูดิโอ คือไฟที่มี Soft Box โครงผ้าสี่เหลี่ยมสีดำ คลุมหัวไฟ ให้หลอดไฟแฟลช อยู่ด้านในซอฟบ๊อก และมีด้านสีขาว เป็นที่ให้แสงออกมา เท่านั้น โดยนึกไปว่า ถ้าเป็น “ไฟ ที่มี Softbox” ก็คือไฟสตูดิโอ ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นความหมายที่แคบ และจำเพาะเจาะจงเกินไป อาจจะเพราะว่า คนไทย อาจจะไม่คุ้นเคยกับ การทำงานของช่างภาพ ในสตูดิโอ แบบในต่างประเทศ ก็เลยให้ความหมายของคำว่า Studio ไปในแนวนี้ แต่ยังไงก็ตาม บทความนี้ ก็จะเขียนล้อไปตามความเข้าใจ ของคนไทยเป็นหลักนะครับ ไฟสตูดิโอ ในความเข้าใจของคนไทย จะมี 2แบบ คือ ไฟสตูดิโอ แบบไฟแฟลช และ ไฟสตูดิโอ แบบไฟต่อเนื่อง สิ่งที่ต่างกันหลักๆคือ รูปแบบของแสงที่ปล่อยออกมา และชนิดของหลอดไฟที่สร้างแสงออกมา โดยแต่ละชนิดจะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน แบบที่1 “ไฟสตูดิโอ แฟลช” หรือ “ไฟแฟลชสตูดิโอ” เป็นไฟแสงแฟลช ที่ยิงแสงจากหลอดแฟลช ที่ความสว่างสูงมาก ออกมาในเสี้ยววินาที เป็น “ไฟถ่ายภาพนิ่ง” เป็นหลักอย่างเดียว จากรูปข้างบน จะเห็นว่า ตัวหัวไฟสตูดิโอ แฟลช จะเป็นลักษณะเหมือนทรงกระบอก ตั้งอยู่บนขาตั้ง ส่วนซอฟบ๊อก เป็นโครงผ้าสีดำ เอามาสวมครอบ หัวไฟสตูดิโออีกทีหนึ่ง ตัวซอฟบ๊อกจะมีทางออกของแสง ในด้านที่ผ้าเป็นสีขาว เมื่อซูมเข้าไปดู ตรงหัวไฟ ที่หลอดไฟแฟลช ก็จะเห็นว่า มีไฟ 2 ดวง ที่มีลักษณะของหลอดแตกต่างกัน ดวงแรก เป็นลักษณะวงแหวนใส มีเส้นลวด พันรอบๆ อันนี้จะเรียกว่า “หลอดไฟแฟลช” ซึ่งหลอดไฟแฟลชนี้ เป็นหลอดที่ ยิงแสงแฟลชออกมาในช่วงเสี้ยววินาที สร้างกำลังความสว่างสูงมาก แต่ปกติ ในช่วงที่ยังไม่มีการกดชัตเตอร์ถ่ายรูป หลอดไฟแฟลชนี้ก็จะไม่มีแสงออกมา กำลังไฟจะถูก เก็บอยู่ในตัวเก็บประจุ ในกระบอกหัวไฟ รวบรวมกำลัง เพื่อยิงออกมาในตอนที่กดชัตเตอร์เท่านั้น ส่วนหลอดไฟอีกดวงนึง ซึ่งอยู่ตรงกลาง หลอดไฟนี้จะเรียก “Model Light” หรือเรียก “หลอดไฟนำ” จะมีแสงเปล่งออกมาตลอดเวลา แต่กำลังความสว่างไม่สูง สว่างเพียงแค่มองเห็นว่ามีแสง ใช้เพื่อทำให้ช่างภาพ มองเห็นรูปแบบของแสง ที่ออกมาจาก หลอดไฟแฟลช ว่าทิศทางของแสงจะมุ่งไปทางไหน ความคมของแสงเงาเป็นอย่างไร เพื่อให้ช่างภาพได้ประมาณการ ทิศทางและลักษณะของแสงได้ แต่ก็ต้องไปคำนวณกับ ความสว่างจริงที่ถูกยิงออกมาจากหลอดไฟแฟลชด้วย โดยเมื่อก่อนอุปกรณ์ ไฟสตูดิโอ แฟลช เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาสูง และมีการใช้งานโดย ช่างภาพมืออาชีพเป็นหลัก คนทั่วไป มักจะไม่ค่อยซื้อ ไฟสตูดิโอ แฟลช มาใช้งานส่วนตัว เพราะด้วยความที่ มีความซับซ้อน ในการใช้งาน ต้องมีความรู้ และเข้าใจหลักการของแสง และการถ่ายภาพเป็นอย่างดี กล้องที่ใช้งานร่วมกับตัวไฟแฟลชสตูดิโอ มักจะเป็นกล้อง DSLR แต่ในปัจจุบัน คนทั่วไป จะเข้าใจหลักการของแสง และการใช้งานกล้อง DSLR บ้างแล้ว ด้วยเพราะ กล้อง DSLR/Mirrorless มีการใช้อย่างแพร่หลาย และเพราะในมือถือ สมาร์ทโฟน App ของกล้องถ่ายรูปในมือถือ จะมีการบอกรายละเอียด ของค่าชัตเตอร์ค่า ISO และค่าแสง ทำให้ คนทั่วไป เข้าใจหลักการของแสง ในการถ่ายรูปเบื้องต้น ซึ่งถ้าให้เปลี่ยนมาใช้กล้อง DSLR/Mirrorless ทำงานคู่กับไฟแฟลชสตูดิโอ ก็เป็นการต่อยอดความรู้จากเดิม ได้ง่าย ดังนั้น การที่คนทั่วไป ที่ไม่ใช่ช่างภาพอาชีพ เช่าไฟสตูดิโอ มาใช้ถ่ายงานส่วนตัว ก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากแล้วยี่ห้อของ ไฟสตูดิโอ แฟลช ที่เป็นที่รู้จักในบ้านเรา เช่น Fokon, Godox, Excella, Boncolor ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นไฟแบบนี้ของทาง SonLightStudio จะเป็น ไฟสตูดิโอชุด Set A1, Set B1, Set C1 เป็นต้น แบบที่2 คือ “ไฟสตูดิโอ แบบไฟต่อเนื่อง” บางคนเรียก “ไฟสตูดิโอ Softbox” ก็ต้องบอกว่า การเรียก ไฟสตูดิโอ Softbox หรือเรียก ไฟ Softbox ก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะชื่อนี้สามารถหมายถึงไฟแบบ สตูดิโอ แบบไฟแฟลชได้เช่นกัน ซึ่งถ้าเรียก “ไฟสตูดิโอ แบบไฟต่อเนื่อง” ก็จะแยกความเข้าใจได้ง่ายกว่า ไฟสตูดิโอ แบบไฟต่อเนื่อง เป็นไฟที่มีแสงสว่างตลอดเวลา ซึ่งหลอดไฟ ที่เป็นหลอดไฟต่อเนื่อง มีหลายชนิด มีทั้งแบบ หลอดฟลูออเรสเซน, หลอด LED, LED COB […]